ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดร่วงลงกว่า 100 จุด โดยถูกกดดันจากการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ณ เวลา 21.16 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 39,615.61 จุด ลบ 191.76 จุด หรือ 0.48%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นทะลุ 4.3% โดยได้แรงหนุนจากการที่นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในสมาชิกบอร์ดผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในสัปดาห์ที่แล้วว่า เฟดไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ย จนกว่าจะมีความมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวสู่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวแสดงความเห็น หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ว่า แม้ว่าดัชนี PCE สอดคล้องกับที่เฟดคาดการณ์ไว้ แต่เฟดก็จะใช้ความระมัดระวังก่อนที่จะทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
"เราจำเป็นต้องเห็นความคืบหน้ามากขึ้นอีกเกี่ยวกับเงินเฟ้อก่อนที่จะทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากการตัดสินใจเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก ทำให้เราต้องใช้ความระมัดระวังในเรื่องนี้" นายพาวเวลกล่าว
ขณะเดียวกัน นักลงทุนพากันขายทำกำไร หลังตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพุ่งแรงในเดือนมี.ค. และไตรมาส 1/2567
ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้น 2.1% ในเดือนมี.ค. และพุ่งขึ้น 5.6% ในไตรมาส 1/2567 ทำสถิติทะยานขึ้นในไตรมาส 1 มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2564 ส่วนดัชนี S&P 500 ดีดตัวขึ้น 3.1% ในเดือนมี.ค. และพุ่งขึ้น 10.2% ในไตรมาส 1/2567 ทำสถิติทะยานขึ้นในไตรมาส 1 มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2562 ขณะที่ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นเกือบ 2% ในเดือนมี.ค. และทะยานขึ้น 9.1% ในไตรมาส 1/2567
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 205,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ชะลอตัวจากระดับ 275,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ขณะที่คาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.9%
ซิตี้กรุ๊ปออกรายงานระบุว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงมีแนวโน้มที่จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. และหากตลาดแรงงานชะลอตัวลง เฟดก็อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึง 5 ครั้งในปีนี้
"หากกิจกรรมทางเศรษฐกิจดำเนินไปตามที่เฟดคาดการณ์ เฟดก็อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้"
"แต่ถ้าตลาดแรงงานยังคงชะลอตัวต่อไป เราก็คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึง 5 ครั้งในปีนี้" รายงานระบุ