ดาวโจนส์ดิ่งกว่า 200 จุด หวั่นเฟดคงดอกเบี้ยสูงนาน หลังภาคการผลิตแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 1, 2024 22:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดดิ่งลงกว่า 200 จุด หลังการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

ณ เวลา 21.57 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 39,573.94 จุด ลบ 233.43 จุด หรือ 0.59%

สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50.3 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 47.8 ในเดือนก.พ. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 48.1

ดัชนีปรับตัวสูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตสหรัฐมีการขยายตัว โดยเป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 17 เดือน

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่แข็งแกร่ง

ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์จะส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้จากต่างประเทศ ส่วนการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐ จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายลดน้อยลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการจ่ายเงินกู้จำนองเพิ่มมากขึ้น และบริษัทต่างๆจะเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ทำให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวแสดงความเห็น หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ว่า แม้ว่าดัชนี PCE สอดคล้องกับที่เฟดคาดการณ์ไว้ แต่เฟดก็จะใช้ความระมัดระวังก่อนที่จะทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

"เราจำเป็นต้องเห็นความคืบหน้ามากขึ้นอีกเกี่ยวกับเงินเฟ้อก่อนที่จะทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากการตัดสินใจเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก ทำให้เราต้องใช้ความระมัดระวังในเรื่องนี้" นายพาวเวลกล่าว

ขณะเดียวกัน นักลงทุนพากันขายทำกำไร หลังตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพุ่งแรงในเดือนมี.ค. และไตรมาส 1/2567

ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้น 2.1% ในเดือนมี.ค. และพุ่งขึ้น 5.6% ในไตรมาส 1/2567 ทำสถิติทะยานขึ้นในไตรมาส 1 มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2564 ส่วนดัชนี S&P 500 ดีดตัวขึ้น 3.1% ในเดือนมี.ค. และพุ่งขึ้น 10.2% ในไตรมาส 1/2567 ทำสถิติทะยานขึ้นในไตรมาส 1 มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2562 ขณะที่ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นเกือบ 2% ในเดือนมี.ค. และทะยานขึ้น 9.1% ในไตรมาส 1/2567

นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 205,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ชะลอตัวจากระดับ 275,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ขณะที่คาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.9%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ