ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันอังคาร (2 เม.ย.) โดยถูกกดดันจากการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ ขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลเงินเฟ้อของเยอรมนีเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ว่ากำหนดเวลาที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 508.57 จุด ลดลง 4.10 จุด หรือ -0.80%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,130.05 จุด ลดลง 75.76 จุด หรือ -0.92%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,283.13 จุด ลดลง 209.36 จุด หรือ -1.13% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,935.09 จุด ลดลง 17.53 จุด หรือ -0.22%
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ โดยนักลงทุนกลับมาซื้อขายอีกครั้งหลังวันหยุดยาวเนื่องในเทศกาลอีสเตอร์ แต่ตลาดหุ้นถูกกดดันจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนปรับตัวขึ้น
ข้อมูลเบื้องต้นบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของเยอรมนีลดมากกว่าคาดในเดือนมี.ค. เนื่องจากราคาพลังงานลดลง และนักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของยูโรโซนในวันพุธนี้ (3 เม.ย.)
หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ร่วงลง 1.6% หลังปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยหุ้นซิกฟรีด โฮลดิง ซึ่งเป็นบริษัทยาของสวิตเซอร์แลนด์ ร่วง 5.4% หลังนายโวล์ฟกัง วีนันด์ ซีอีโอจะลาออกไปร่วมงานกับบริษัทลอนซา
หุ้นกลุ่มค้าปลีก, อสังหาริมทรัพย์ รวมถึงกลุ่มเดินทางและนันทนาการ ปรับตัวลงกว่า 2%
แต่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น 2.5% สวนทางตลาดแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 เดือน โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นหลังยูเครนโจมตีสาธารณูปโภคด้านพลังงานของรัสเซีย และความขัดแย้งรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลาง
หุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานปรับตัวขึ้นด้วย 1.8% สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือน ตามราคาโลหะที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง