ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันอังคาร (9 เม.ย.) โดยถูกกดดันจากแรงขายทำกำไรหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวกับการผลิตอาวุธ แม้หุ้นกลุ่มเหมืองแร่และน้ำมันปรับตัวขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ก็ตาม
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,934.79 จุด ลดลง 8.68 จุด หรือ -0.11%
หุ้นกลุ่มบริษัทผลิตอาวุธในยุโรปร่วงลงหลังพุ่งขึ้นแข็งแกร่งในไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังโกลด์แมน แซคส์เปิดเผยว่า มูลค่าของหุ้นกลุ่มนี้อาจมีแนวโน้มขาลงมากกว่าขาขึ้นไปจนถึงปี 2568
หุ้นบริษัทผลิตอาวุธ อาทิ บีเออี, เมลโรส และโรลส์-รอยซ์ ร่วงลง 3.2-4.5%
แต่หุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด โดยกลุ่มเหมืองโลหะมีค่า พุ่ง 2.8% สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2566 เนื่องจากราคาทองทะยานขึ้นแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์
หุ้นกลุ่มเหมืองโลหะอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 1.4% หลังราคาสัญญาสินแร่เหล็กยังคงปรับตัวขึ้นรับแนวโน้มอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในจีน ขณะที่ราคาทองแดงทรงตัวอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน
หุ้นกลุ่มน้ำมันปรับตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นบีพีพุ่งขึ้น 1.3% หลังจากคาดการณ์การผลิตน้ำมันและก๊าซในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/2566
บรรดานักลงทุนระมัดระวังในการซื้อขายก่อนสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อ, ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุมกำหนดนโยบายการเงิน และอังกฤษเปิดเผยข้อมูล GDP ในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงแนวโน้มเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่าง ๆ ในปีนี้
นักลงทุนจับตาอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดคาดว่า BoE อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.67% ในปีนี้