ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพุธ (10 เม.ย.) หลังการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยตลาดถูกกดดันในช่วงแรกจากการที่สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อสูงเกินคาดซึ่งทำลายความหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงหลายครั้งในปีนี้
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,961.21 จุด เพิ่มขึ้น 26.42 จุด หรือ +0.33%
ตลาดหุ้นลอนดอนฟื้นตัวปิดบวก หลังร่วงมากถึง 0.2% ในช่วงเช้า โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร และหุ้นเทสโก้ พุ่งขึ้น 3.3%
หุ้นเทสโก้ บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของอังกฤษ พุ่งขึ้นมากถึง 6.5% แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 10 ปี หลังคาดการณ์ว่า ผลกำไรจะเพิ่มขึ้นอีก โดยระบุถึงสัญญาณเริ่มต้นของความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น
หุ้นอื่น ๆ ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ปรับตัวขึ้นด้วย อาทิ เรกคิทท์ เบนคีเซอร์, เทท แอนด์ ไลล์ และเซนสเบอรี
หุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มประกันของอังกฤษ พุ่งขึ้นมากกว่า 1% โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอังกฤษที่ปรับตัวขึ้น เนื่องจากเทรดเดอร์คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ที่ระดับสูงต่อไปอีกนาน
ข้อมูลจาก LSEG บ่งชี้ว่า ตลาดการเงินคาดว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.56% ในปีนี้ และคาดว่ามีโอกาส 52% ที่ BoE จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งแรกในเดือนมิ.ย. ขณะที่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากกว่า 0.44% ในปีนี้ และจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งแรกในเดือนก.ค.
บรรดานักลงทุนจะจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ (11 เม.ย.) และการเปิดเผยข้อมูล GDP ของอังกฤษในวันศุกร์ (12 เม.ย.)