ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี (11 เม.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้น เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นนำตลาด และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจตอกย้ำความหวังว่าเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงมีแนวโน้มชะลอตัว
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,459.08 จุด ลดลง 2.43 จุด หรือ -0.01%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,199.06 จุด เพิ่มขึ้น 38.42 จุด หรือ +0.74% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,442.20 จุด เพิ่มขึ้น 271.84 จุด หรือ +1.68%
ในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 นั้น หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นมากที่สุด ขณะที่กลุ่มการเงินปรับตัวลงมากที่สุด
ดัชนี FANG+ ซึ่งประกอบด้วยหุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่ พุ่งขึ้น 2.6%
ตลาดได้แรงหนุน หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) อ่อนแอกว่าคาด ซึ่งสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า การขยายตัวของเงินเฟ้อยังคงชะลอตัวลง
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตประจำเดือนมี.ค.ในวันพฤหัสบดี โดยดัชนี PPI ทั่วไป (Headline PPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.1% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.2% หลังจากปรับตัวขึ้น 1.6% ในเดือนก.พ. และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PPI ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนมี.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% หลังจากปรับตัวขึ้น 0.6% ในเดือนก.พ.
ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.4% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.3% หลังจากปรับตัวขึ้น 2.1% ในเดือนก.พ. และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PPI พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนมี.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนก.พ.
บรรดานักลงทุนมุ่งความสนใจในขณะนี้ไปที่การเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทจดทะเบียน โดยธนาคารรายใหญ่ 3 แห่งของสหรัฐ ได้แก่ เจพีมอร์แกน, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก จะรายงานผลประกอบการในเช้าวันศุกร์นี้ (12 เม.ย.) ตามเวลาสหรัฐ