ดัชนีดาวโจนส์เปิดตลาดในแดนลบในวันนี้ (12 เม.ย.) เนื่องจากหุ้นเติบโตระดับเมกะแคป (megacap) และหุ้นชิปส่วนใหญ่พากันปรับตัวลง ขณะที่หุ้นธนาคารใหญ่บางตัวร่วงลงหลังเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสออกมาแย่กว่าที่คาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เปิดตลาดที่ระดับ 38,319.14 จุด ลบ 139.94 จุด หรือ -0.36%
ธนาคารเจพีมอร์แกน เชส (JPMorgan Chase) เปิดเผยผลประกอบการในวันนี้ว่า มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 6% ในไตรมาสแรก แต่ราคาหุ้นร่วงลงหลังจากที่เจพีมอร์แกนประมาณการรายได้ดอกเบี้ยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
เจพีมอร์แกนคาดว่า หากไม่รวมกำไรขาดทุนจากการซื้อขาย รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ตลอดทั้งปีนี้จะอยู่ที่ 8.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับความผันผวนของตลาด ซึ่งสูงกว่าประมาณการก่อนหน้านี้ที่ 8.8 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 9.068 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลของ LSEG
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน คืนนี้ เวลา 21:00 น. ตามเวลาไทย
แบงก์ออฟอเมริการายงานว่า หุ้นขนาดใหญ่ของสหรัฐประสบกับยอดเงินไหลออกรายสัปดาห์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2565 ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันพุธ (10 เม.ย.)
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 50% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนก.ค.