ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันอังคาร (16 เม.ย.) จากแรงเทขายท่ามกลางความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง และการคาดการณ์ที่ลดลงเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,820.36 จุด ลดลง 145.17 จุด หรือ -1.82%
ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลงระหว่างวันมากที่สุดในรอบ 8 เดือน โดยหุ้นเกือบทุกตัวปิดตลาดในแดนลบ
หุ้นดร.มาร์ตินส์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรองเท้าบูท ร่วง 29.4% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หลังแต่งตั้งซีอีโอคนใหม่ และคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการที่ลดลงในปี 2568 เนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอ
หุ้นกลุ่มสินค้าส่วนบุคคล ร่วงลง 5.7%
หุ้นซูเปอร์ดราย ซึ่งเป็นบริษัทด้านแฟชั่น ร่วงลง 23.8% หลังเปิดเผยแผนระดมทุนซึ่งรวมถึงการขายหุ้น โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้บริษัทเป็นของเอกชนแทนการซื้อขายในตลาดหุ้น
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่อุตสาหกรรมร่วงลง 3.1% หลังราคาโลหะที่ไม่มีส่วนผสมของเหล็กร่วงลงเพราะถูกกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากแรงเทขายอย่างหนัก หลังจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาได้ลดโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็ว ๆ นี้
อย่างไรก็ตาม อัตราการว่างงานในอังกฤษเพิ่มขึ้นในเดือนก.พ. และค่าจ้างหลักเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่กลางปี 2565 ซึ่งสนับสนุนโอกาสที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในอนาคตอันใกล้นี้ และตลาดคาดว่า BoE อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.41% ในปีนี้