ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (22 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดที่ผ่อนคลายลงในตะวันออกกลาง และนักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการจากบรรดาธนาคารในยุโรปและจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 502.31 จุด เพิ่มขึ้น 3.02 จุด หรือ +0.60%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,040.36 จุด เพิ่มขึ้น 17.95 จุด หรือ +0.22%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 17,860.80 จุด เพิ่มขึ้น 123.44 จุด หรือ +0.70% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,023.87 จุด เพิ่มขึ้น 128.02 จุด หรือ +1.62%
ดัชนี STOXX 600 ดีดตัวขึ้น หลังจากร่วงลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยถูกกดดันจากความวิตกด้านภูมิรัฐศาสตร์และความวิตกที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นักลงทุนจะมุ่งความสนใจในสัปดาห์นี้ไปที่การเปิดเผยผลประกอบการจากบรรดาธนาคารในยุโรป เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะยังคงหนุนผลกำไรของกลุ่มธนาคารหรือไม่ และการทะยานขึ้นของราคาหุ้นที่ดำเนินมานานนับปีจะสิ้นสุดลงหรือไม่
ข้อมูลจาก LSEG บ่งชี้ว่า ผลประกอบการโดยรวมของบริษัทในดัชนี STOXX 600 นั้นคาดว่าจะลดลง 12.1% ในไตรมาสแรกเมื่อเทียบเป็นรายปี
นอกจากนี้ นักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของสหรัฐ อาทิ อัลฟาเบท, ไมโครซอฟท์ และเมตา แพลตฟอร์ม รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจทั่วโลกในสัปดาห์นี้
นายฟรองซัวส์ วิลเลรอย เดอ กัลเฮา ประธานธนาคารกลางฝรั่งเศสกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ความตึงเครียดในตะวันออกกลางไม่มีแนวโน้มที่จะดันราคาพลังงานขึ้น และจะไม่กระทบแผนการของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.
ตลาดหุ้นกรีซพุ่งขึ้น 2% หลัง S&P ปรับเพิ่มแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซเป็น "เชิงบวก" จาก "มีเสถียรภาพ"