ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพฤหัสบดี (25 เม.ย.) และแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน และข่าวเกี่ยวกับการเสนอซื้อกิจการในกลุ่มเหมืองแร่
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,078.86 จุด เพิ่มขึ้น 38.48 จุด หรือ +0.48%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวก หลังดัชนี FTSE 100 แตะระดับสูงสุดตลอดกาลครั้งใหม่ที่ 8,105.59 จุดในช่วงเช้า
หุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 16.1% สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 เดือน หลังบีเอชพีเสนอซื้อกิจการของแองโกล อเมริกัน เป็นมูลค่า 3.88 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้เกิดบริษัทเหมืองแร่ทองแดงใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งจะผลิตทองแดงราว 10% ของปริมาณการผลิตทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม หุ้นบีเอชพี ร่วงลง 2.2% ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มเหมืองโลหะอุตสาหกรรม พุ่งขึ้น 2.0% จากข่าวดังกล่าว
หุ้นกลุ่มเภสัชภัณฑ์และเทคโนโลยีชีวภาพ พุ่ง 3.9% โดยได้แรงหนุนจากหุ้นแอสตร้าเซนเนก้าที่ทะยานขึ้น 5.9% หลังรายงานรายได้และกำไรรายไตรมาสสูงกว่าคาด
หุ้นกลุ่มสินค้าส่วนบุคคล พุ่ง 3.1% โดยได้แรงหนุนจากหุ้นยูนิลีเวอร์ที่พุ่งขึ้น 5.7% หลังเปิดเผยยอดขายไตรมาสแรกดีเกินคาด
หุ้นธนาคารบาร์เคลยส์ พุ่ง 6.7% หลังเปิดเผยรายได้จากการซื้อขายตราสารทางการเงินดีกว่าคาดในไตรมาสแรก แม้กำไรลดลง 12% ก็ตาม
ตลาดหุ้นลอนดอนไม่ได้รับผลกระทบจากการที่อังกฤษเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่อังกฤษทำการล็อกดาวน์โรคโควิด-19 เป็นครั้งแรก