ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุด ขณะที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน, การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในสัปดาห์นี้
ณ เวลา 20.33 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 38,376.68 จุด บวก 137.02 จุด หรือ 0.36%
ราคาหุ้นของบริษัทเทสลา อิงค์ บริษัทรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้นกว่า 10% หลังมีข่าวว่าบริษัทมีความคืบหน้าในการเปิดใช้ระบบ Full Self-Driving หรือ FSD ในจีน
บริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งจะประกาศผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงแมคโดนัลด์ คอร์ป, โคคา-โคล่า, แอปเปิ้ล อิงค์ และอเมซอนดอทคอม
บริษัทจำนวนมากกว่า 45% ในดัชนี S&P 500 ได้เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 1/2567 แล้ว ซึ่งบริษัทราว 80% จากจำนวนดังกล่าวมีกำไรสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 97.1% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมครั้งนี้
อย่างไรก็ดี ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด หลังการประชุม เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในปีนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนเม.ย.ในวันศุกร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 243,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. โดยชะลอตัวจากระดับ 303,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.8%