ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพุธ (8 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่ประเมินเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางรายใหญ่
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 515.77 จุด เพิ่มขึ้น 1.75 จุด หรือ +0.34%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,131.41 จุด เพิ่มขึ้น 55.73 จุด หรือ +0.69%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,498.38 จุด เพิ่มขึ้น 68.33 จุด หรือ +0.37% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,354.05 จุด เพิ่มขึ้น 40.38 จุด หรือ +0.49%
นักวิเคราะห์ของดอยซ์แบงก์ระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดในจีนและยุโรป และแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) บ่งชี้ว่า ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนจะฟื้นตัวขึ้นอีกในไตรมาสต่อ ๆ ไป
ดัชนี STOXX 600 ลดช่วงติดลบจากเดือนเม.ย. เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนฟื้นตัวขึ้น, ECB อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมิ.ย.นี้ และความตึงเครียดในตะวันออกกลางกำลังลดน้อยลง
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมช่วยหนุนดัชนี STOXX 600 โดยหุ้นซีเมนส์ เอเนอร์จี ซึ่งผลิตอุปกรณ์พลังงาน พุ่งขึ้น 4.7% หลังบริษัทปรับเพิ่มแนวโน้มผลประกอบการในปี 2567 และประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ที่สูงเกินคาด
ดัชนีหุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เพิ่มขึ้น 1.6% โดยได้แรงหนุนจากหุ้นแอนไฮเซอร์-บุช อินเบฟ บริษัทผลิตเบียร์รายใหญ่ที่สุดของโลกจากเบลเยียม ที่พุ่งขึ้น 5.6% หลังจากเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกสูงเกินคาด และยืนยันแนวโน้มผลประกอบการในปี 2567
หุ้นพูม่า บริษัทผลิตชุดกีฬาของเยอรมนี พุ่งขึ้น 11% หลังเปิดเผยยอดขายไตรมาสแรกเป็นไปตามคาดการณ์ ขณะที่หุ้นบริษัทอาโฮลด์ เดอแลซ ของเบลเยียม ซึ่งดำเนินธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ต บวก 2.4% หลังเปิดเผยผลกำไรหลักในไตรมาสแรกสูงเกินคาด