ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันพฤหัสบดี (9 พ.ค.) ทำสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 7 หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาด ซึ่งทำให้ตลาดมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,387.76 จุด เพิ่มขึ้น 331.37 จุด หรือ +0.85%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,214.08 จุด เพิ่มขึ้น 26.41 จุด หรือ +0.51% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,346.26 จุด เพิ่มขึ้น 43.51 จุด หรือ +0.27%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2567 และทำสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกันยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2566 ขณะที่ดัชนี S&P500 ฟื้นตัวสู่แดนบวกและปิดที่เหนือระดับ 5,200 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. 2567 โดยตลาดได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังมีข้อมูลบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มคลายความร้อนแรง
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 22,000 ราย สู่ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 8 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2566 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 215,000 ราย
ส่วนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าคาดในเดือนเม.ย. และตัวเลขการเปิดรับสมัครงานลดลงแตะระดับระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีในเดือนมี.ค. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 2 ครั้งในปีนี้ ซึ่งต่างจากก่อนหน้านี้ที่คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียว
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงสู่ระดับ 4.46% เมื่อคืนนี้ ซึ่งชะลอตัวลงจากระดับ 4.7% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มสาธารณูปโภค พุ่งขึ้น 2.31% และ 1.52% ตามลำดับ ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลง 0.25%
หุ้นวอร์เนอร์ บราเธอร์ส พุ่งขึ้น 3% แม้บริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด
หุ้นอาร์ม โฮลดิ้งส์ ร่วงลง 2.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ในปีงบการเงิน 2567 ที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันที่ 14 พ.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันที่ 15 พ.ค.