ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพฤหัสบดี (9 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ หุ้นซีเมนส์, เอบีบี และชไนเดอร์ อิเล็คทริค ซึ่งพุ่งขึ้นมากกว่า 1%
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 516.77 จุด เพิ่มขึ้น 1.00 จุด หรือ +0.19%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,187.65 จุด เพิ่มขึ้น 56.24 จุด หรือ +0.69%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,686.60 จุด เพิ่มขึ้น 188.22 จุด หรือ +1.02% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,381.35 จุด เพิ่มขึ้น 27.30 จุด หรือ +0.33%
ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่ฟื้นตัวของบริษัทจดทะเบียน, การที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนมิ.ย. และความตึงเครียดที่ลดลงในตะวันออกกลาง
หุ้นธนาคารซาบาเดลของสเปน พุ่ง 3.1% หลังธนาคารบีบีวีเอเสนอเทกโอเวอร์ซาบาเดลเป็นวงเงิน 1.223 หมื่นล้านยูโร ขณะที่หุ้นบีบีวีเอ ร่วงลง 6.7%
แต่หุ้นกลุ่มรถยนต์ปรับตัวลงสวนทางตลาดเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยลดลง 0.8% ขณะที่หุ้นเมอร์เซเดส-เบนซ์ ร่วง 5.8% หลังขึ้นเครื่องหมาย XD ซึ่งผู้ซื้อหุ้นไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผลที่จะจ่ายงวดล่าสุด
ข้อมูลจากแอลเอสอีจีบ่งชี้ว่า บริษัทอย่างน้อย 61% ในดัชนี STOXX 600 รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกสูงเกินคาด ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยโดยทั่วไปที่ระดับ 54%