ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพฤหัสบดี (9 พ.ค.) แตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน หลังธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ลงมติตรึงอัตราดอกเบี้ย แต่ส่งสัญญาณว่าอาจพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็ว ๆ นี้
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,381.35 จุด เพิ่มขึ้น 27.30 จุด หรือ +0.33%
ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้นสูงถึง 8,396.25 จุดในการซื้อขายช่วงเช้า และปรับตัวขึ้นมากกว่า 8% แล้วในปีนี้ ซึ่งมากกว่า 2 เท่าของปีที่แล้วที่เพิ่มขึ้น 3.8% โดยตลาดได้แรงหนุนจากการชะลอตัวของเงินเฟ้อและความหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทข้ามชาติ
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (MPC) ของ BoE ลงมติ 7 ต่อ 2 เสียงในวันพฤหัสบดีในการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี
อย่างไรก็ตาม นายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BoE ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่ BoE จำเป็นจะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ในปัจจุบัน
ตลาดการเงินคาดการณ์อย่างเต็มที่ว่า BoE จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนส.ค. ขณะที่คาดว่ามีโอกาส 44% ที่ BoE อาจจะปรับลดในเดือนมิ.ย. ซึ่งจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเกี่ยวกับค่าแรงและเงินเฟ้อ
หุ้นกลุ่มเหมืองโลหะอุตสาหกรรม ปรับตัวขึ้น 1.3% ขณะที่กลุ่มเหมืองโลหะมีค่า เพิ่มขึ้น 0.9% เนื่องจากราคาโลหะปรับตัวขึ้น หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลตลาดแรงงานที่อ่อนแอซึ่งตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง
ส่วนหุ้นธนาคารเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ ร่วงลง 1.9% สวนทางตลาด เนื่องจากขึ้นเครื่องหมาย XD โดยนักลงทุนที่ซื้อหุ้นไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผลที่จ่ายงวดล่าสุด