ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันพฤหัสบดี (16 พ.ค.) หลังบวกติดต่อกัน 9 วัน โดยหุ้นซีเมนส์ของเยอรมนีถ่วงตลาดลงหลังเปิดเผยผลกำไรด้านอุตสาหกรรมในไตรมาส 2 ต่ำกว่าคาด นอกจากนี้ หุ้นหลายตัวในกลุ่มรถยนต์และกลุ่มพลังงานร่วงลงจากการขึ้นเครื่องหมาย (XD)
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 523.62 จุด ลดลง 1.09 จุด หรือ -0.21%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,188.49 จุด ลดลง 51.50 จุด หรือ -0.63%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,738.81 จุด ลดลง 130.55 จุด หรือ -0.69% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,438.65 จุด ลดลง 7.15 จุด หรือ -0.08%
ดัชนี STOXX 600 ปิดลดลง หลังแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในวันพุธซึ่งได้แรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนก.ย. หลังการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐต่ำกว่าคาดในเดือนเม.ย.
หุ้นซีเมนส์ร่วงลง 6.6% แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี เนื่องจากเปิดเผยผลกำไรด้านอุตสาหกรรมในไตรมาส 2 ลดลง 2% และต่ำกว่าคาด หลังจากการชะลอตัวของธุรกิจระบบอัตโนมัติในโรงงานซึ่งเป็นธุรกิจหลัก
หุ้นกลุ่มสินค้าและบริการด้านอุตสาหกรรมร่วงลงกว่า 1%
หุ้นกลุ่มรถยนต์ร่วงลงหนักที่สุด 1.2% โดยหุ้นบีเอ็มดับบลิว และหุ้นเดมเลอร์ ทรัก ร่วง 6.3% และ 5.1% ตามลำดับ เนื่องจากขึ้นเครื่องหมาย XD
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วง 1% โดยหุ้นบีพีร่วงลง 1.5% หลังขึ้นเครื่องหมาย XD
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวอยู่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากความหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ โดยผู้กำหนดนโยบายได้ส่งสัญญาณถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนมิ.ย. อย่างไรก็ตาม แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยหลังจากนั้นยังคงไม่แน่นอน
นายมาร์ตินส์ คาซัคส์ ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า ECB ไม่รีบที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ดังนั้นการปรับอัตราดอกเบี้ยหลังจากนั้นอาจจะเว้นระยะ เพื่อให้มีเวลาในการประเมินสถานการณ์