ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันศุกร์ (17 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีความระมัดระวังหลังจากผู้กำหนดนโยบายแสดงความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงิน โดยหุ้นอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยปรับตัวลงมากที่สุด โดยถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนที่ปรับตัวขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 522.94 จุด ลดลง 0.68 จุด หรือ -0.13%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,167.50 จุด ลดลง 20.99 จุด หรือ -0.26%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,704.42 จุด ลดลง 34.39 จุด หรือ -0.18% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,420.26 จุด ลดลง 18.39 จุด หรือ -0.22%
รายงานระบุว่านางอิซาเบล ชนาเบล ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) สนับสนุนการดำเนินนโยบายที่ระมัดระวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลังจากที่อาจปรับลดลงครั้งแรกในเดือนมิ.ย. ซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของยูโรโซนได้ยืนยันรายงานก่อนหน้านี้ว่า เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนเม.ย.
ผู้กำหนดนโยบายของ ECB ไม่ได้แสดงความชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลังเดือนมิ.ย. ขณะที่ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมุมมองเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างชัดเจน แม้การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยก็ตาม
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราปรับตัวขึ้น 1% สวนทางตลาด โดยหุ้นริชมอนด์ของสวิตเซอร์แลนด์ พุ่งขึ้น 5.3% หลังรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ฟื้นตัวขึ้นอย่างมาก และได้แต่งตั้งนิโคลาส บอส เป็นซีอีโอ
หุ้นบางตัวปรับตัวลงจากการขึ้นเครื่องหมาย XD และหุ้นบางตัวถูกกดดันจากการเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด
บรรดานักลงทุนยังมุ่งความสนใจไปที่บริษัทฟิทช์ที่จะทำการทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของสเปน