ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (20 พ.ค.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นธนาคารเจพีมอร์แกน อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์และดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้นก่อนที่บริษัทอินวิเดีย (Nvidia) จะเปิดเผยผลประกอบการ ขณะที่นักลงทุนยังคงหาสัญญาณบ่งชี้ช่วงเวลาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,806.77 จุด ลดลง 196.82 จุด หรือ -0.49%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,308.13 จุด เพิ่มขึ้น 4.86 จุด หรือ +0.09% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,794.87 จุด เพิ่มขึ้น 108.91 จุด หรือ +0.65%
ดัชนีดาวโจนส์ถูกกดดันจากหุ้นเจพีมอร์แกนที่ร่วงลง 4.5% หลังจากนายเจมี ไดมอน ซีอีโอของเจพีมอร์แกนส่งสัญญาณในระหว่างการประชุมประจำปีว่า เขาจะเกษียณอายุการทำงานเร็วกว่าที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ และกล่าวว่าเจพีมอร์แกนจะไม่ซื้อหุ้นคืนในราคาที่ระดับปัจจุบัน
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 พ.ค.) ดัชนีดาวโจนส์สามารถทำสถิติปิดตลาดเหนือระดับ 40,000 จุดเป็นครั้งแรก โดยปิดที่ 40,003.59 จุด ขณะที่ทอม ลี หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Fundstrat Global Advisors คาดการณ์ว่า "ตลาดจะยังคงพุ่งขึ้นต่อไปอีกระยะหนึ่ง โดยเราคาดว่าตลาดจะเปลี่ยนจากความวิตกจากเหตุการณ์ "Sell in May" มาเป็น "Buy in May" ซึ่งเมื่อผ่านไปแต่ละสัปดาห์ เราก็เห็นว่าเป็นเช่นนั้นจริง และเมื่อมองไปในสัปดาห์หน้า เราก็คาดว่าตลาดจะดีดตัวขึ้นต่อไป"
ในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุด โดยได้แรงหนุนจากหุ้นอินวิเดียที่พุ่งขึ้น 2.49% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการในวันพุธนี้ (22 พ.ค.) ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ตลาดฟิลาเดลเฟีย (PHLX Semiconductor Index) พุ่งขึ้น 2.15%
นักลงทุนจับตาผลประกอบการของอินวิเดียซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของสหรัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินว่าอินวิเดียจะยังคงเติบโตและแซงหน้าบริษัทคู่แข่งต่อไปได้หรือไม่ โดยขณะนี้มีบริษัทโบรกเกอร์อย่างน้อย 3 แห่งที่ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นของอินวิเดีย
หุ้นไมครอน เทคโนโลยี (Micron Technology) ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งของอินวิเดีย พุ่งขึ้น 2.96% หลังจากนักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นไมครอนสู่ระดับ "Equal-weight" จากระดับ "Underweight"
หุ้นนอร์วีเจียน ครูส ไลน์ (Norwegian Cruise Line) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเรือสำราญ ทะยานขึ้น 7.56% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรในปีงบการเงิน 2567
นักวิเคราะห์ของดอยซ์แบงก์ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายดัชนี S&P500 ในช่วงสิ้นปี 2567 สู่ระดับ 5,500 จุด จากระดับ 5,100 จุด โดยดอยซ์แบงก์ให้เป้าหมายดัชนี S&P500 ที่ระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับเป้าหมายของบรรดาโบรกเกอร์รายใหญ่
นักลงทุนจับตารายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค.ซึ่งจะมีการเผยแพร่ในวันพุธนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 63.3% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล, ยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน