ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยในวันจันทร์ (20 พ.ค.) โดยหุ้นกลุ่มอากาศยานและการป้องกันประเทศนำตลาดปรับตัวขึ้น แต่การปรับตัวขึ้นของตลาดเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากนักลงทุนรอการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 523.89 จุด เพิ่มขึ้น 0.95 จุด หรือ +0.18%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,195.97 จุด เพิ่มขึ้น 28.47 จุด หรือ +0.35%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,768.96 จุด เพิ่มขึ้น 64.54 จุด หรือ +0.35% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,424.20 จุด เพิ่มขึ้น 3.94 จุด หรือ +0.05%
หุ้นกลุ่มอากาศยานและการป้องกันประเทศ นำตลาดปรับตัวขึ้น โดยบวก 1.9%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ปรับตัวขึ้น 0.8% ก่อนอินวิเดีย บริษัทผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ของสหรัฐเปิดเผยรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกในสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 2 ขณะที่ตลาดรอการเปิดเผยข้อมูลกิจกรรมทางธุรกิจของยูโรโซนในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจบ่งชี้ทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB)
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นางอิซาเบล ชนาเบล กรรมการ ECB ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์นิกเกอิว่า ECB อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนมิ.ย. แต่เตือนเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเมื่อพิจารณาเกี่ยวกับแนวโน้มที่ไม่แน่นอน
LSEG เปิดเผยว่า ตลาดปรับตัวรับโอกาสที่ ECB จะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.65% ในปีนี้ เมื่อเทียบกับ 0.67% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
หุ้นแอร์บัส เพิ่มขึ้น 1.2% หลังซาอุเดีย กรุ๊ป (Saudia Group) เจ้าของสายการบินซาอุเดียและฟลายอะดีล (Flyadeal) ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำประกาศสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสลำแคบจำนวน 105 ลำ ซึ่งผู้อำนวยการของบริษัทระบุว่าเป็นการสั่งซื้อครั้งใหญ่สุดของสายการบินซาอุดีอาระเบีย
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นราว 0.7% เนื่องจากราคาทองแดงพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากมาตรการสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน และข้อมูลภาคอุตสาหกรรมที่ดีเกินคาด ขณะที่ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ด้วยเช่นกัน