ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันอังคาร (21 พ.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ นอกจากนี้ นักลงทุนบางกลุ่มยังเทขายทำกำไรก่อนที่อังกฤษจะเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อในวันนี้
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,416.45 จุด ลดลง 7.75 จุด หรือ -0.09%
หุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ร่วงลง 4% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในดัชนี FTSE 100 นำโดยหุ้นดาวเลส กรุ๊ป (Dowlais Group) ร่วงลง 6.12% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีงบการเงิน 2567
อย่างไรก็ดี การพุ่งขึ้นของหุ้นแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ช่วยให้ดัชนี FTSE 100 ลดช่วงลบ โดยหุ้นแอสตร้าเซนเนก้า พุ่งขึ้น 2.2% หลังจากบริษัทตั้งเป้าที่จะเพิ่มรายได้รวมเป็น 8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2573 ซึ่งเพิ่มขึ้น 75% จาก 4.58 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566
อาราธนา สาริน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของแอสตร้าเซนเนก้าให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า บริษัทมีความมั่นใจอย่างมากต่อเป้าหมาย 8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐนี้ เนื่องจากปัจจุบันทางบริษัทมีผลิตภัณฑ์และบริการที่กว้างขวางและหลากหลาย นอกจากนี้ แอสตร้าเซนเนก้าจะมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจด้านเนื้องอกวิทยา และชีวเภสัชภัณฑ์ และคาดว่าจะมีการเปิดตัวยาชนิดใหม่เพิ่มอีก 20 ชนิดในช่วง 6 ปีข้างหน้า
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนเม.ย.ของอังกฤษในวันนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในปีนี้