ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าลบเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (23 พ.ค.) หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำวันที่ 30 เม.ย.-พ.ค. โดยระบุว่ากรรมการเฟดได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อของสหรัฐ และไม่มั่นใจว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงมากพอที่จะทำให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้หรือไม่
ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 18,930.02 จุด ลดลง 265.58 จุด หรือ -1.38% ขณะที่ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดเช้าที่ 3,126.82 จุด ลดลง 31.72 จุด หรือ -1.00% ส่วนดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 38,913.48 จุด เพิ่มขึ้น 296.38 จุด หรือ +0.77%
ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 3.5% ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ ขณะที่ ผลสำรวจจากรอยเตอร์วันที่ 21 พ.ค. คาดการณ์ว่าธนาคารกลางเกาหลีใต้จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.50% ในไตรมาส 4/2567
ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขั้นสุดท้ายสำหรับไตรมาส 1/2567 ของสิงคโปร์ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปจากการประมาณการเบื้องต้นที่ 2.7%
เศรษฐกิจของออสเตรเลียแสดงสัญญาณแห่งความเข้มแข็งอย่างต่อเนื่อง สะท้อนออกมาจากข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ในเดือนพ.ค. 2567 ที่โดยรวมแล้วอยู่ในช่วงขยายตัว
ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นของออสเตรเลียจาก Judo Bank อยู่ที่ระดับ 52.6 ในเดือนพ.ค. ลดลงจากระดับ 53.0 ในเดือนเม.ย. ซึ่งบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจของภาคเอกชนขยายตัวเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน
ทั้งนี้ ดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว ผลสำรวจธุรกิจแสดงให้เห็นในวันนี้ (23 พ.ค.) ว่ากิจกรรมภาคการผลิตของญี่ปุ่นพลิกกลับสู่ภาวะขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปีในเดือนพ.ค. เนื่องจากการผลิตเริ่มกระเตื้องขึ้นหลังตกอยู่ภายใต้ภาวะอ่อนแอติดต่อกันหลายเดือน
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคการผลิต (PMI) ขั้นต้นของญี่ปุ่นจาก au Jibun Bank ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50.5 ในเดือนพ.ค. จาก 49.6 ในเดือนเม.ย. ซึ่งทะลุระดับ 50.0 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปีที่แล้ว
ดัชนี PMI ที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนตัวเลขต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมธุรกิจอยู่ในภาวะหดตัว