ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันศุกร์ (24 พ.ค.) เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน โดยถูกกดดันจากความไม่แน่นอนทางการเมืองก่อนการเลือกตั้งของอังกฤษในเดือนก.ค. และการคาดการณ์ที่ลดลงเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางรายใหญ่ต่าง ๆ นั้นส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนด้วย
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,317.59 จุด ลดลง 21.64 จุด หรือ -0.26% โดยลดลงต่อเนื่อง 4 วันยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคร่วงลง 3.3% โดยลดลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ขณะที่หุ้นเนชันแนล กริด ร่วงลง 3.7%
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 1.2% ในรอบสัปดาห์นี้ เนื่องจากรายงานเงินเฟ้อที่สูงเกินคาดทำให้คาดว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะเลื่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกจากเดือนมิ.ย.ไปเป็นเดือนก.ย.
บรรดานักลงทุนปรับตัวรับการที่นายริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีอังกฤษสร้างความประหลาดใจด้วยการประกาศเลือกตั้งในเดือนก.ค.
ยอดค้าปลีกของอังกฤษลดลงเกินคาดในเดือนเม.ย. เนื่องจากภาวะฝนตกส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอย
นอกจากนี้ นักลงทุนขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไร หลังจากตลาดพุ่งขึ้นเกือบ 8% ในช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา
หุ้นกลุ่มประกันวินาศภัย บวก 1.4% สวนทางตลาด
กลุ่มที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย อาทิ กลุ่มทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) และกลุ่มก่อสร้างและวัสดุ ปรับตัวขึ้น 0.9% และ 1.1% ตามลำดับ