ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันพุธ (29 พ.ค.) เป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน เนื่องจากเทรดเดอร์ปรับลดคาดการณ์เกี่ยวกับกำหนดเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่หุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วงลง หลังบริษัทบีเอชพี กรุ๊ปของออสเตรเลียยกเลิกการเสนอเทกโอเวอร์วงเงิน 4.9 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,183.07 จุด ลดลง 71.11 จุด หรือ -0.86% โดยปรับตัวลงต่อเนื่องยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2566
หุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วง 3.0% หลังแองโกลปฏิเสธข้อเรียกร้องของบีเอชพี ที่ขอขยายเวลาหารือเกี่ยวกับข้อเสนอเทกโอเวอร์ซึ่งมีความซับซ้อนอย่างมาก
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้น หลังข้อมูลบ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนพ.ค. ซึ่งทำให้นักลงทุนปรับลดคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.
อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษอายุ 2 ปี เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2566 แตะ 4.57% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นแตะ 4.37% โดยปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 5
หุ้นกลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ร่วงลง 3.5%
หุ้นกลุ่มเหมืองโลหะมีค่าและโลหะอุตสาหกรรม ปรับตัวลง 2.2% และ 1.9% ตามลำดับ
แต่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น 0.6% สวนทางตลาด โดยปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน
นักลงทุนจะจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายแอนดรูว์ ไบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในสัปดาห์นี้ รวมถึงการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันศุกร์นี้เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้เงินเฟ้อ