ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดี (30 พ.ค.) เนื่องจากการลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลได้ช่วยคลายความวิตกในตลาด ขณะที่นักลงทุนรอการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจทั่วโลกในไม่กี่วันข้างหน้านี้ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางรายใหญ่
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 516.50 จุด เพิ่มขึ้น 3.05 จุด หรือ +0.59%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,978.51 จุด เพิ่มขึ้น 43.48 จุด หรือ +0.55%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,496.79 จุด เพิ่มขึ้น 23.50 จุด หรือ +0.13% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,231.05 จุด เพิ่มขึ้น 47.98 จุด หรือ +0.59%
ดัชนี STOXX 600 ปิดบวก หลังลดลง 2 วันที่ผ่านมา โดยปรับตัวอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในยุโรปปรับตัวลง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีอายุ 10 ปีอยู่ที่ 2.654% แม้ยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน หลังพุ่งขึ้นในวันพุธเนื่องจากการประมูลพันธบัตรสหรัฐอ่อนแอ และข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ตลาดการเงินคาดการณ์ในขณะนี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ ขณะที่คาดว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งแรกในสัปดาห์หน้า
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ พุ่งขึ้น 1.9% ขณะที่หุ้นกลุ่มเทเลคอม พุ่ง 1.6%
แต่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลง 0.7% สวนทางตลาด โดยหุ้นเอสเอพี (SAP) ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ของเยอรมนี ร่วงลง 4.1% หลังบริษัทเซลส์ฟอร์ซ (Salesforce) ของสหรัฐคาดการณ์ผลกำไรและรายได้ในไตรมาส 2 ต่ำกว่าคาด เนื่องจากการใช้จ่ายของลูกค้าลดลงในด้านผลิตภัณฑ์คลาวด์และด้านซอฟต์แวร์เกี่ยวกับธุรกิจ
บรรดานักลงทุนจับตาการแสดงความเห็นจากนายกาเบรียล มาคลูฟ ผู้ว่าการธนาคารกลางไอร์แลนด์ และนายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อจากสหรัฐและยูโรโซนในวันศุกร์นี้
อัตราเงินเฟ้อของสเปนเพิ่มขึ้นเกินคาดสู่ระดับ 3.8% ในช่วง 12 เดือนถึงเดือนพ.ค. จาก 3.4% ในช่วง 12 เดือนจนถึงเดือนเม.ย.
ส่วนในสหรัฐนั้น การเปิดเผยข้อมูลแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้เฟดยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงก่อนสิ้นปีนี้