ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าบวกในวันนี้ (31 พ.ค.) ขณะที่นักลงทุนพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจจากประเทศสำคัญ ๆ ในเอเชีย
ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 18,402.19 จุด เพิ่มขึ้น 172.00 จุด หรือ +0.94% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดเช้าที่ 3,099.99 จุด เพิ่มขึ้น 8.31 จุด หรือ +0.27% ส่วนดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 38,119.96 จุด เพิ่มขึ้น 65.83 จุด หรือ +0.17%
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตลดลงสู่ระดับ 49.5 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 50.4 ในเดือนเม.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ว่าอาจจะอยู่ที่ระดับ 50.4
ดัชนีที่อยู่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของจีนอยู่ในภาวะหดตัว ซึ่งคาดว่าจะทำให้ตลาดการเงินออกมาเรียกร้องให้จีนใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่วิกฤตการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงเป็นปัจจัยถ่วงความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ ผู้บริโภค และนักลงทุน
ญี่ปุ่นระบุว่าตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลง 0.1% ในเดือนเม.ย.จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งสวนทางการคาดการณ์ ขณะที่นักวิเคราะห์ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่าอาจจะปรับขึ้น 0.9%
ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นเปิดเผยว่าเงินเฟ้อพื้นฐานในกรุงโตเกียวปรับตัวขึ้น 1.9% ในเดือนพ.ค. ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์
ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้น 2.2% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งได้รับการปรับค่าตามฤดูกาลแล้ว โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์คาดไว้ว่า อาจปรับตัวขึ้น 1.1%