ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงเล็กน้อย โดยนักลงทุนชะลอการลงทุนเนื่องจากรอดูข้อมูลการจ้างงานซึ่งจะมีการรายงานในสัปดาห์นี้ หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เมื่อวันศุกร์ (31 พ.ค.) ซึ่งสอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ณ เวลา 18.10 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 13 จุด หรือ -0.03% สู่ระดับ 38,781 จุด
ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดในวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนี PCE สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ในเดือนพ.ค. ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 2.4%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 4.8% และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 6.9%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย. สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ ปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนเม.ย. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.3%
ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
สำหรับข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐซึ่งจะมีการรายงานในสัปดาห์นี้ มีทั้งตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนเม.ย.ในวันอังคารที่ 4 มิถุนายน, ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ค.จาก ADP ในวันพุธที่ 5 มิถุนายน, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ในวันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค. ในวันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน