ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนรอดูผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการของอินเดีย
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 38,749.25 จุด ลดลง 173.78 จุด หรือ -0.45% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,077.89 จุด ลดลง 0.60 จุด หรือ -0.02% ส่วนดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 18,441.59 จุด เพิ่มขึ้น 38.55 จุด หรือ +0.21%
เว็บไซต์เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้น ขานรับมุมมองบวกที่ว่าเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัว และคาดว่าการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์จีนจะเป็นไปในลักษณะซอฟต์แลนดิ้ง
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นฮ่องกงยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 48.7 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 49.2 ในเดือนเม.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 49.6
นักลงทุนจับตาผลการเลือกตั้งทั่วไปของอินเดียอย่างใกล้ชิด โดยอินเดียได้เริ่มทำการนับคะแนนเสียงเลือกตั้งปี 2567 ในเวลา 08.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นในวันนี้ (4 มิ.ย.) และมีการคาดการณ์ว่า นายนเรนทรา โมดี จะได้รับชัยชนะและดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยที่ 3
ทั้งนี้ การเลือกตั้งทั่วไปของอินเดียมีขึ้นระหว่างวันที่ 19 เม.ย. ถึง 1 มิ.ย. นับเป็นการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยแบ่งการลงคะแนนออกเป็น 7 รอบ และจะประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 มิ.ย.
เอ็กซิตโพลบ่งชี้ว่า กลุ่มพรรคร่วมรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคภารตียชนตา (BJP) จะคว้าชัยชนะอย่างถล่มทลาย ขณะที่สถานีโทรทัศน์เอ็นดีทีวี (NDTV) คาดว่าพรรคร่วมรัฐบาลของนายโมดีจะได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 365 ที่นั่ง โดยตามกฎระเบียบการเลือกตั้งของอินเดียระบุว่า พรรคหรือพรรคร่วมรัฐบาลซึ่งได้ที่นั่งอย่างน้อย 272 ที่นั่งจากทั้งหมด 543 ที่นั่งจะได้รับสิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาล