ดัชนีดาวโจนส์พลิกร่วงลงสู่แดนลบ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขภาคการบริการที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นปัจจัยทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ณ เวลา 21.52 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 38,638.49 จุด ลบ 72.80 จุด หรือ 0.19%
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 53.8 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2566 จากระดับ 49.4 ในเดือนเม.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 50.8
ดัชนีได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่การจ้างงานยังคงอยู่ในภาวะหดตัว
ดัชนีปรับตัวสูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะขยายตัวของภาคบริการสหรัฐ หลังจากอยู่ในภาวะหดตัวในเดือนเม.ย.
ทั้งนี้ ดัชนีภาคบริการของ ISM ประกอบด้วยอุตสาหกรรม 17 กลุ่ม ซึ่งรวมถึงอสังหาริมทรัพย์ การขนส่ง การก่อสร้าง และเหมืองแร่
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ค.ในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. จากระดับ 175,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.9%