ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวแคบ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
ณ เวลา 18.52 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 28 จุด หรือ 0.09% สู่ระดับ 38,856 จุด
ดัชนีดาวโจนส์แกว่งตัวทั้งแดนบวกและลบเมื่อวานนี้ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ไร้ทิศทาง ก่อนที่ดัชนีดาวโจนส์จะปิดตลาดบวก 0.25%
ทั้งนี้ สหรัฐเปิดเผยตัวเลขภาคการบริการที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นปัจจัยทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาดไว้
นอกจากนี้ สหรัฐยังเปิดเผยตลาดแรงงานที่อ่อนแอ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 53.8 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2566 จากระดับ 49.4 ในเดือนเม.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 50.8
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 152,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 175,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 188,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย.
สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลงสู่ระดับ 8.06 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนก.พ.2564
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ค.ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. จากระดับ 175,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.9%