ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพุ่งขึ้นกว่า 100 จุด ทะลุแนว 39,000 จุด หลังสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่ง แต่อัตราว่างงานสูงกว่าคาด
ณ เวลา 21.59 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 39,002.45 จุด บวก 116.28 จุด หรือ 0.3%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 272,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 182,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.0% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2565 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.9%
ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงในช่วงแรก ท่ามกลางความกังวลที่ว่าตัวเลขจ้างงานที่สูงกว่าคาดดังกล่าวจะเป็นปัจจัยทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่มีการคาดไว้
อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์พลิกดีดตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนมองว่าตัวเลขจ้างงานที่สูงเกินคาดช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และอัตราว่างงานที่สูงเกินคาดได้ช่วยลดความร้อนแรงของตลาดแรงงาน
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า รวมทั้งถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด หลังการประชุม เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ หลังจากที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวานนี้ โดยเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนก.ย.2562
นอกจากนี้ ตลาดจับตาคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในปีนี้
ทั้งนี้ ในการเปิดเผย Dot Plot ในการประชุมเดือนมี.ค. เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2567 โดยปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 0.75% ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิมที่ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในการประชุมเดือนธ.ค.2566