ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (12 มิ.ย.) นำโดยหุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย อาทิ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์พุ่งขึ้น หลังการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่ชะลอตัวของสหรัฐเพิ่มความหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเริ่มวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็ว ๆ นี้
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 522.89 จุด เพิ่มขึ้น 5.60 จุด หรือ +1.08%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,864.70 จุด เพิ่มขึ้น 75.49 จุด หรือ +0.97%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,630.86 จุด เพิ่มขึ้น 260.92 จุด หรือ +1.42% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,215.48 จุด เพิ่มขึ้น 67.67 จุด หรือ +0.83%
ดัชนี STOXX 600 ปิดบวก หลังร่วง 3 วัน โดยปรับตัวขึ้นเป็นเปอร์เซนต์วันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงสดใส หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปของสหรัฐทรงตัวในเดือนพ.ค. ขณะที่แรงกดดันจากเงินเฟ้อพื้นฐานลดลงในเดือนพ.ค.
หลังการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว บรรดาเทรดเดอร์คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนก.ย.
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย พุ่งขึ้น 2.7% ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ปรับตัวขึ้น 2.4%
แต่หุ้นกลุ่มรถยนต์ของยุโรป อาทิ โฟล์คสวาเกน และบีเอ็มดับบลิว ร่วงลง 1% สวนทางตลาด จากความวิตกว่าจีนจะตอบโต้หลังคณะกรรมาธิการยุโรปเปิดเผยว่าจะกำหนดภาษีในการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าของจีน
หุ้นปอร์เช่ โฮลดิง ร่วง 7.2% เนื่องจากการขึ้นเครื่องหมาย XD
หุ้นเร็นโทคิล อินนิเชียล ซึ่งเป็นบริษัทกำจัดแมลงของอังกฤษ พุ่งขึ้น 13.7% หลังจาก Trian Fund Management ของนายเนลสัน เพลทซ์ นักลงทุนประเภทนักเคลื่อนไหวได้เข้าซื้อหุ้นดังกล่าวจำนวนมาก