ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดดิ่งลงกว่า 200 จุด โดยถูกกดดันจากสถานการณ์ทางการเมืองในฝรั่งเศส และการที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ณ เวลา 20.54 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 38,405.71 จุด ลบ 241.39 จุด หรือ 0.62% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 0.42% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 0.11%
อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 3.1% นับตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดตัวขึ้น 1.6% ส่วนดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลง 0.4%
นักวิเคราะห์ระบุว่าตลาดถูกกดดันจากปัจจัยในต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงความกังวลเกี่ยวกับปัจจัยการเมืองในฝรั่งเศส และการที่ BOJ ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น
นอกจากนี้ นักลงทุนผิดหวังต่อรายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ซึ่งเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เพียง 1 ครั้งในปี 2567 จากเดิมที่ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในการประชุมเดือนมี.ค.
ตลาดหุ้นฝรั่งเศสดิ่งลงกว่า 2% ในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ
ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ประกาศยุบสภาเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. พร้อมกับจัดการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งจะมีขึ้น 2 รอบในวันที่ 30 มิ.ย. และ 7 ก.ค.
นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับชัยชนะในการเลือกตั้งของพรรคเนชันแนล แรลลี (National Rally) ซึ่งเป็นพรรคขวาจัด หลังจากทางพรรคเพิ่งคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งรัฐสภายุโรป
นายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศส กล่าวเตือนว่าฝรั่งเศสอาจเผชิญวิกฤตการณ์ทางการเงิน หากพรรคขวาจัดหรือซ้ายจัดชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้