ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ หลังจากจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวน ขณะที่ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลงอย่างหนัก ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในยุโรป
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 38,106.41 จุด ร่วงลง 708.15 จุด หรือ -1.82%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,017.12 จุด ลดลง 15.52 จุด หรือ -0.51% และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 17,978.30 จุด เพิ่มขึ้น 36.52 จุด หรือ +0.20%
ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลง 0.31% และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียลดลง 0.13%
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีก ซึ่งเป็นมาตรวัดการอุปโภคบริโภค ปรับตัวขึ้น 3.7% ในเดือนพ.ค. ซึ่งดีกว่าในเดือนเม.ย.ที่เพิ่มขึ้น 2.3% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3% โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลวันหยุด
แต่การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 5.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนเม.ย.ที่เพิ่มขึ้น 6.7% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 6% ส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของจีนปรับตัวขึ้น 4% ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 4.2%
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าฟื้นตัว หลังจากธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนไว้ที่ระดับ 2.50% สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ และเป็นการคงอัตราดอกเบี้ย MLF ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10
ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาธนาคารกลางออสเตรเลียซึ่งมีกำหนดจัดการประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันพรุ่งนี้ (18 มิ.ย.)