ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากดัชนี S&P500 และ Nasdaq ตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮอย่างต่อเนื่อง ขานรับความแข็งแกร่งของหุ้นกลุ่มบริษัทผลิตชิป โดยหุ้นอินวิเดียซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และมีมูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) แซงหน้าไมโครซอฟท์ขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 1
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 38,707.21 จุด เพิ่มขึ้น 225.10 จุด หรือ +0.58%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 18,264.51 จุด เพิ่มขึ้น 348.96 จุด หรือ +1.95% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,020.03 จุด ลดลง 10.22 จุด หรือ -0.34%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ดีดตัวขึ้นเกือบ 1% โดยได้แรงหนุนจากหุ้นซัมซุม อิเลกโทรนิกส์พุ่งขึ้น 1.5% ขณะที่หุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายอื่น ๆ ของเกาหลีใต้พุ่งขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นแอลจี อิเลกโทรนิกส์ ทะยานขึ้น 4.13% และหุ้นเอสเค ไฮนิกซ์ พุ่งขึ้นกว่า 3%
ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 0.18%.
นักลงทุนประเมินข้อมูลการค้าของญี่ปุ่นในวันนี้ โดยรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นขาดดุลการค้า 1.22 ล้านล้านเยน (7.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนพ.ค. เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินเยนส่งผลให้มูลค่าการนำเข้าปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ ยอดนำเข้าเดือนพ.ค.ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 9.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 9.5 ล้านล้านเยน ส่วนยอดส่งออกพุ่งขึ้น 13.5% ในเดือนพ.ค. แตะที่ระดับ 8.28 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดเมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.ในปีอื่น ๆ
นักลงทุนจับตาธนาคารกลางจีน (PBOC) เตรียมแถลงมติอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี และ 5 ปีในวันพรุ่งนี้ (20 มิ.ย.) หลังจาก PBOC ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนไว้ที่ระดับ 2.50% เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการคงดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10