ดัชนีดาวโจนส์พลิกดีดตัวสู่แดนบวก หลังปรับตัวลงในช่วงแรก
ณ เวลา 00.56 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 39,235.21 จุด บวก 65.69 จุด หรือ 0.17%
นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวแสดงความพอใจต่อความคืบหน้าเกี่ยวกับเงินเฟ้อในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ก็ระบุว่า เขายังคงต้องการเห็นความคืบหน้ามากขึ้น ก่อนที่จะมีความมั่นใจเพียงพอในการเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย
"เรามีความคืบหน้าเป็นอย่างมากในการทำให้เงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายของเรา โดยตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุด และครั้งก่อนหน้า บ่งชี้ว่าเราได้กลับสู่เส้นทางในการทำให้เงินเฟ้อลดลงแล้ว"
"แต่เราต้องการมีความมั่นใจมากขึ้นว่าเงินเฟ้อกำลังปรับตัวลงสู่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน ก่อนที่เราจะเริ่มต้นกระบวนการในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน" นายพาวเวลกล่าวในงานเสวนาที่จัดขึ้นในวันนี้โดยธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่เมืองซินตรา ประเทศโปรตุเกส
นายพาวเวลยังระบุว่า "เราตระหนักดีว่า หากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป เราก็อาจจะทำลายผลงานที่ดีที่เราได้ทำมา แต่ถ้าเราปรับลดอัตราดอกเบี้ยช้าเกินไป สิ่งนี้ก็อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวและการขยายตัวของเศรษฐกิจ"
นอกจากนี้ ต่อคำถามที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.หรือไม่นั้น นายพาวเวลตอบว่า "ผมจะไม่กล่าวถึงกำหนดวันที่เฉพาะเจาะจงที่นี่ในวันนี้"
ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนก.ย. และปรับลดอีกครั้งในเดือนธ.ค. แม้ว่ารายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ในการประชุมเฟดบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้
สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 221,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 8.14 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 7.96 ล้านตำแหน่ง จากระดับ 7.92 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย.
อัตราการเปิดรับสมัครงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.9% ในเดือนพ.ค.
ตัวเลขการจ้างงานใหม่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.8 ล้านตำแหน่ง ส่วนอัตราการจ้างงานอยู่ที่ระดับ 3.6%
ขณะที่ตัวเลขการปลดออกจากงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.65 ล้านตำแหน่ง
ส่วนจำนวนคนลาออกจากงานโดยสมัครใจเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.51 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ขณะที่อัตราคนลาออกจากงานโดยสมัครใจอยู่ที่ระดับ 2.2%
ทั้งนี้ ตัวเลข JOLTS นับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสนใจ โดยมองว่าเป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงิน และอัตราดอกเบี้ยของเฟด