ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันอังคาร (2 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกลับมากังวลกับการเลือกตั้งในฝรั่งเศสอีกครั้ง ขณะที่ข้อมูลบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในภาคบริการของยูโรโซน
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 510.91 จุด ลดลง 2.13 จุด หรือ -0.42%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,538.29 จุด ลดลง 22.84 จุด หรือ -0.30%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,164.06 จุด ลดลง 126.60 จุด หรือ -0.69% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,121.20 จุด ลดลง 45.56 จุด หรือ -0.56%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลง แต่ดีดตัวขึ้นพ้นจุดต่ำสุดในรอบเกือบ 2 เดือนที่เข้าทดสอบในช่วงเช้า
หุ้นกลุ่มประกันนำตลาดปรับตัวลงโดยร่วง 1.6% หลังหุ้นบีซลีย์ (Beazley) บริษัทประกันของอังกฤษ ดิ่งลง 5.2% เนื่องจากพายุเฮอริเคน เบริล (Beryl) ทวีความรุนแรงขึ้นในแถบแคริบเบียนใต้
ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนยังคงระมัดระวังก่อนการเลือกตั้งรอบสองในวันที่ 7 ก.ค.
ข้อมูลเงินเฟ้อในภาคบริการของยูโรโซนยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งอาจทำให้ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) กังวลว่า แรงกดดันด้านราคาอาจยังคงเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ขานรับเงินเฟ้อที่ลดลงเล็กน้อยในเดือนมิ.ย.ว่าเป็นไปในทิศทางที่เหมาะสม
บรรดาเทรดเดอร์ปรับตัวรับโอกาส 50% ที่ ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือนก.ย. และมีโอกาสน้อยลงที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกในเดือนธ.ค.
หุ้นกลุ่มรถยนต์ลดลง 0.9% หลังหุ้นมิชลินของฝรั่งเศส ร่วง 3.1% หลังบริษัทปรับลดคาดการณ์ยอดขายยางรถยนต์ในปีนี้
ส่วนหุ้นรายตัว อาทิ หุ้นโนโว นอร์ดิสค์ บริษัทยาของเดนมาร์ก ร่วง 1.1% หลังมีรายงานว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐเรียกร้องให้บริษัทปรับลดราคายาลดน้ำหนักและยารักษาโรคเบาหวาน