ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นในวันนี้ ตามทิศทางดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ (2 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีมุมมองบวกต่ออัตราดอกเบี้ยสหรัฐ หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เฟดมีความคืบหน้าในการทำให้เงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 40,425.37 จุด เพิ่มขึ้น 350.68 จุด หรือ +0.88%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 17,978.52 จุด เพิ่มขึ้น 209.38 จุด หรือ +1.18% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,985.01 จุด ลดลง 12.00 จุด หรือ -0.40%
ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้น 0.3% และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียดีดตัวขึ้น 0.2%
ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าอ่อนแรงลง หลังจากไฉซินและเอสแอนด์พี โกลบอล เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมิ.ย.ของจีนลดลงสู่ระดับ 51.2 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 54.0 ในเดือนพ.ค. โดยดัชนี PMI เดือนมิ.ย.ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2566
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวสุนทรพจน์ในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นโดยธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่เมืองซินตรา ประเทศโปรตุเกสเมื่อวานนี้ (2 ก.ค.) โดยกล่าวว่า "เฟดมีความคืบหน้าอย่างมากในการทำให้เงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย โดยตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดและครั้งก่อนหน้าบ่งชี้ว่าเฟดได้กลับสู่เส้นทางในการทำให้เงินเฟ้อลดลงแล้ว"
อย่างไรก็ดี นายพาวเวลกล่าวว่า "เฟดต้องการความมั่นใจมากขึ้นว่าเงินเฟ้อกำลังปรับตัวลงสู่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน ก่อนที่จะเริ่มต้นกระบวนการผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยเฟดตระหนักว่า หากเราปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป เราก็อาจจะทำลายผลงานที่ดีที่เราได้ทำมา แต่ถ้าเราปรับลดอัตราดอกเบี้ยช้าเกินไป สิ่งนี้ก็อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวและการขยายตัวของเศรษฐกิจ"
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมิ.ย.ของสหรัฐจาก ADP และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด