ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดี (4 ก.ค.) ท่ามกลางความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐหลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ขณะที่ตลาดลอนดอนปรับตัวขึ้น เนื่องจากผลสำรวจการเลือกตั้งทั่วประเทศคาดว่าพรรคแรงงานจะได้ชัยชนะมากเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 517.54 จุด เพิ่มขึ้น 2.87 จุด หรือ +0.56%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,695.78 จุด เพิ่มขึ้น 63.70 จุด หรือ +0.83%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,450.48 จุด เพิ่มขึ้น 75.95 จุด หรือ +0.41% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,241.26 จุด เพิ่มขึ้น 70.14 จุด หรือ +0.86%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ โดยตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นด้วย ขณะที่นักลงทุนรอดูว่าพรรคแรงงานจะได้รับเสียงข้างมากในระดับสูงเพียงใด
หุ้นกลุ่มธนาคารของยุโรปปรับตัวขึ้นนำตลาด โดยบวกขึ้น 1.3% หลังหุ้นกลุ่มธนาคารของฝรั่งเศสปรับตัวขึ้น เช่น โซซิเอเต้ เจเนราล และบีเอ็นพี พาริบาส์
ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐสนับสนุนแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง โดยผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานชะลอตัวลง
คำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีลดลงเกินคาดในเดือนพ.ค. ในขณะที่รายงานอีกฉบับแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อของสวิสฯ ลดลงในเดือนพ.ค. ซึ่งทำให้ตลาดต่าง ๆ เชื่อว่า มีโอกาสมากขึ้นที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งในปลายปีนี้
การซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการวันที่ 4 ก.ค. เนื่องในวันชาติ