ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันจันทร์ (8 ก.ค.) โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง และนักลงทุนรอการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจใหม่ ๆ ขณะที่การปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มประกันช่วยพยุงตลาด
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,193.49 จุด ลดลง 10.44 จุด หรือ -0.13%
หุ้นกลุ่มโลหะมีค่า ร่วงลง 1.9% ขณะที่กลุ่มโลหะอุตสาหกรรม ลดลง 1% โดยปรับตัวลงตามราคาทองคำและทองแดง
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 1.2% ด้วย เนื่องจากราคาน้ำมันลดลง หลังจากแนวโน้มการทำข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาได้ลดความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ ขณะที่นักลงทุนประเมินแนวโน้มภาวะอุปทานพลังงานที่ชะงักงันของสหรัฐที่เกิดจากพายุโซนร้อนเบริล
แต่หุ้นฮิสค็อกซ์ พุ่ง 13.4% สวนทางตลาด ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มประกันวินาศภัย หลังอินชัวรันซ์ อินไซเดอร์รายงานว่า บริษัทฮิสค็อกซ์ได้รับความสนใจในการเข้าเทกโอเวอร์และอาจขายกิจการ
หุ้นบริทวิก (Britvic) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตน้ำอัดลม พุ่ง 4.5% สวนทางตลาด หลังตกลงที่จะถูกเทกโอเวอร์โดยบริษัทคาร์ลสเบิร์กเป็นวงเงิน 3.3 พันล้านปอนด์ (4.2 พันล้านดอลลาร์)
หุ้นโอคาโด (Ocado) ซึ่งเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ พุ่งขึ้น 5.4% หลังจากบริษัทได้เพิ่มความร่วมมือกับอิออน (Aeon) ของญี่ปุ่น โดยมีแผนที่จะสร้างคลังสินค้าที่ใช้หุ่นยนต์ช่วยทำงาน (robotic warehouse) แห่งที่สาม
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในสหรัฐ และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสองประเทศดังกล่าว
หลังจากการเลือกตั้งสิ้นสุดลงแล้ว นักลงทุนจะหันกลับไปให้ความสนใจกับแนวโน้มการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในการประชุมครั้งถัดไปในเดือนส.ค.