ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ กังวลการเมืองฝรั่งเศสฉุดตลาด

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันในวันอังคาร (9 ก.ค.) โดยถูกกดดันจากการปรับตัวลงของตลาดหุ้นฝรั่งเศสท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมือง ขณะที่นักลงทุนประเมินแถลงการณ์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 511.76 จุด ลดลง 4.67 จุด หรือ -0.90%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,508.66 จุด ลดลง 118.79 จุด หรือ -1.56%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,236.19 จุด ลดลง 235.86 จุด หรือ -1.28% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,139.81 จุด ลดลง 53.68 จุด หรือ -0.66%

ดัชนี STOXX 600 ปิดลดลงเป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุดในรอบเกือบ 1 เดือน และตลาดหุ้นฝรั่งเศสร่วงลง ขณะที่นักลงทุนประเมินสถานการณ์ทางการเมืองหลังการเลือกตั้งรอบสองในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ในวันอังคารว่า บรรดาผู้นำจากกลุ่มฝ่ายซ้ายที่ได้รับคะแนนเสียงมากที่สุดในการเลือกตั้ง และกลุ่มสายกลางที่ได้คะแนนเสียงตามมาเป็นอันดับสองต่างก็พยายามที่จะเป็นกลุ่มแรกที่จะจัดตั้งรัฐบาลขึ้น

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ร่วงลง 1.6% หลังหุ้น Dassault Systemes ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ของฝรั่งเศสร่วงลง 5.1% หลังปรับลดเป้าหมายผลประกอบการทั้งปี โดยระบุว่า กลุ่มลูกค้าระมัดระวังการใช้จ่ายและเลื่อนการเซ็นสัญญา

หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซ ร่วงลง 1.5% โดยถูกกดดันจากการที่หุ้นบีพีของอังกฤษ ร่วงลง 4.2% หลังคาดว่ากำไรจากการกลั่นจะลดลง และการซื้อขายน้ำมันที่ซบเซาจะกระทบผลประกอบการไตรมาส 2

บรรดานักลงทุนประเมินความเห็นของนายพาวเวลในการแถลงต่อรัฐสภา โดยเขากล่าวว่า ภาวะเงินเฟ้อปรับตัวดีขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และข้อมูลที่ดีมากขึ้นจะสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยตลาดการเงินคาดว่า มีโอกาสมากกว่า 70% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนก.ย.

สำหรับจุดสนใจของตลาดในขณะนี้จะอยู่ที่การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐและเยอรมนีในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางนโยบายการเงินโลก