ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุดในวันพุธ (10 ก.ค.) ส่วนดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมทั้งถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ช่วยสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,721.36 จุด เพิ่มขึ้น 429.39 จุด หรือ +1.09%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,633.91 จุด เพิ่มขึ้น 56.93 จุด หรือ +1.02% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,647.45 จุด เพิ่มขึ้น 218.16 จุด หรือ +1.18%
ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่ Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นวันที่ 7 และดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นวันที่ 6 นอกจากนี้ ดัชนี S&P500 ยังปิดที่เหนือระดับ 5,600 จุดเป็นครั้งแรก หลังจากนายพาวเวลส่งสัญญาณว่าเฟดมีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า
นายพาวเวลได้แถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ว่า "เฟดไม่ใช่ธนาคารกลางที่มีเป้าหมายอยู่ที่เงินเฟ้อเท่านั้น แต่เฟดมีภารกิจในการรักษาการจ้างงานเช่นกัน และเพื่อหลีกเลี่ยงการส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เฟดจะไม่รอจนกว่าเงินเฟ้อปรับตัวสู่เป้าหมาย 2% ถึงจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย"
เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 74% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 70% ในวันอังคาร (9 ก.ค.) และเพิ่มขึ้นอย่างมากจากเดือนที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 45%
หุ้นทั้ง 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 1.63% ตามด้วยดัชนีหุ้นกลุ่มวัสดุดีดตัวขึ้น 1.34% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นน้อยที่สุด โดยเพิ่มขึ้นเพียง 0.42%
หุ้นบริษัทผลิตชิปพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยหุ้นไมครอน เทคโนโลยี พุ่งขึ้น 4% หุ้นอินวิเดีย พุ่งขึ้น 2.7% และหุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (AMD) พุ่งขึ้น 3.9%
หุ้นแอปเปิ้ล ปรับตัวขึ้น 1.9% ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้มูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ของบริษัทแอปเปิ้ลเพิ่มขึ้นเป็น 3.6 ล้านล้านดอลลาร์
ดัชนีหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ที่ตลาดหุ้นฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia SE Semiconductor Index) พุ่งขึ้น 2.4% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากบริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง โค (TSMC) ซึ่งจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐ เปิดเผยรายได้ที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 2 ขานรับอุปสงค์เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ทั้งนี้ TSMC เป็นผู้ผลิตชิปสัญญาจ้างรายใหญ่ของไต้หวันและมีลูกค้าเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ ซึ่งรวมถึงบริษัทแอปเปิ้ลและอินวิเดีย นอกจากนี้ TSMC ยังเป็นบริษัทที่มีมาร์เก็ตแคปสูงที่สุดในเอเชีย โดยอยู่ที่ระดับ 8.30 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนมิ.ย.ในวันนี้ (11 ก.ค.) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนมิ.ย.ในวันศุกร์ (12 ก.ค.)
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูรายงานผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่ในวันศุกร์ ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก