ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐที่ทะยานขึ้นในวันพุธ (10 ก.ค.) ขานรับมุมมองบวกที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 42,179.84 จุด เพิ่มขึ้น 347.85 จุด หรือ +0.83% โดยดัชนีนิกเกอิทำสถิติพุ่งขึ้นทะลุระดับ 42,000 จุดเป็นครั้งแรก โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 17,740.44 จุด เพิ่มขึ้น 268.77 จุด หรือ +1.54% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,961.99 จุด เพิ่มขึ้น 22.63 จุด หรือ +0.77%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้น 0.75% หลังจากธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 3.5% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นการคงดอกเบี้ยในการประชุม 12 ครั้งติดต่อกัน และสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด
ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวขึ้น 0.93%
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้แถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ (10 ก.ค.) ว่า "เฟดไม่ใช่ธนาคารกลางที่มีเป้าหมายอยู่ที่เงินเฟ้อเท่านั้น แต่เฟดมีภารกิจในการรักษาการจ้างงานเช่นกัน และเพื่อหลีกเลี่ยงการส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เฟดจะไม่รอจนกว่าเงินเฟ้อปรับตัวสู่เป้าหมาย 2% ถึงจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย"
เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 74% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 70% ในวันอังคาร (9 ก.ค.) และเพิ่มขึ้นอย่างมากจากเดือนที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 45%
นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนมิ.ย.ในวันนี้ (11 ก.ค.) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนมิ.ย.ในวันศุกร์ (12 ก.ค.)