ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวน หลังจากจีนเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 2/2567 ขณะที่ตลาดกำลังประเมินเหตุการณ์คนร้ายพยายามลอบสังหารนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ในระหว่างการปราศรัยหาเสียงเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 18,038.56 จุด ลดลง 254.82 จุด หรือ -1.39% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,974.48 จุด เพิ่มขึ้น 3.19 จุด หรือ +0.11%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ทรงตัว และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 0.79% ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการในวันนี้ เนื่องในวันแห่งทะเล
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า GDP ประจำไตรมาส 2/2567 ของจีนขยายตัวเพียง 4.7% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่าจะขยายตัว 5.1% และชะลอตัวลงจากไตรมาส 1/2567 ที่มีการขยายตัว 5.3%
นักลงทุนกำลังประเมินสถานการณ์ที่นายทรัมป์ถูกคนร้ายลอบยิงในระหว่างการปราศรัยหาเสียงในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (13 ก.ค.) ตามเวลาสหรัฐ โดยนายทรัมป์ถูกยิงที่หูด้านขวาและทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ แต่เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ผู้ที่เข้าร่วมฟังการปราศรัยเสียชีวิต 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย ส่วนมือปืนได้ถูกหน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐยิงเสียชีวิตทันทีหลังก่อเหตุ
นายเดวิด โรช ประธานบริษัทควอนตัม สตราเทจี คาดการณ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (14 ก.ค.) ว่า นายทรัมป์จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดี และมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่พรรครีพับลิกันจะได้ครองเสียงข้างมากทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐ
ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมใหญ่ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ชุดที่ 20 ครั้งที่ 3 ในวันนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าที่ประชุมจะมุ่งเน้นในหลายประเด็น เช่นปัญหาหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่นที่อยู่ในระดับสูง และการผลักดันการผลิตที่ทันสมัย