ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันอังคาร (16 ก.ค.) เนื่องจากหุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ และกลุ่มสินค้าหรูหราร่วงลง หลังฮิวโก้ บอส คาดการณ์ผลประกอบการทั้งปีที่ซบเซา ขณะที่ตลาดประเมินโอกาสที่นายโดนัลด์ ทรัมป์จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 517.30 จุด ลดลง 1.43 จุด หรือ -0.28%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,580.03 จุด ลดลง 52.68 จุด หรือ -0.69%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,518.03 จุด ลดลง 72.86 จุด หรือ -0.39% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,164.90 จุด ลดลง 18.06 จุด หรือ -0.22%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง โดยหุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานร่วงลง 1.7% ตามราคาโลหะพื้นฐานที่ปรับตัวลง
หุ้นริโอ ทินโต ร่วง 2.3% หลังรายงานยอดส่งออกแร่เหล็กต่ำกว่าคาดในไตรมาส 2
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลง 0.9% หลังราคาน้ำมันดิบร่วงลงราว 1%
หุ้นฮิวโก้ บอส ซึ่งเป็นแบรนด์แฟชั่นหรูของเยอรมนี ดิ่งลง 7.5% หลังปรับลดคาดการณ์ยอดขายและผลประกอบการทั้งปีนี้ โดยระบุถึงอุปสงค์ของผู้บริโภคที่อ่อนแอทั่วโลก โดยเฉพาะในจีนและอังกฤษ
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราร่วงลงมากกว่า 1% โดยปรับตัวลงต่อเนื่อง หลังจากร่วงลง 3% เมื่อวันจันทร์
สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ZEW ระบุว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเยอรมนีลดลงมากเกินคาดในเดือนก.ค. โดยลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี และบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเยอรมนีซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของยูโรโซนนั้นจะเป็นไปอย่างไม่ราบรื่น
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะจัดการประชุมนโยบายในสัปดาห์นี้ ซึ่งนักลงทุนคาดว่า ECB จะตรึงอัตราดอกเบี้ย และนักลงทุนจะจับตาความเห็นจากผู้กำหนดนโยบายเพื่อประเมินกำหนดเวลาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
นอกจากนี้ จุดสนใจของตลาดยังคงอยู่ที่สถานการณ์การเมืองในสหรัฐหลังจากที่มีความพยายามลอบสังหารนายโดนัลด์ ทรัมป์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา