ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุด เหนือแนว 41,000 จุด ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ในเดือนก.ย.
ณ เวลา 20.53 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 41,064.20 จุด บวก 109.72 จุด หรือ 0.27%
อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P 500 ลบ 0.86% และ Nasdaq ดิ่งลง 1.71% โดยถูกกดดันจากการปรับตัวลงของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและเซมิคอนดักเตอร์
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เฟดจะไม่รอจนกว่าเงินเฟ้อปรับตัวสู่เป้าหมาย 2% ก่อนที่จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นายพาวเวลกล่าวถ้อยแถลงดังกล่าวที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งวอชิงตัน ดีซี (Economic Club of Washington, D.C.) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการย้ำถ้อยแถลงที่เขากล่าวในแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นักลงทุนเทน้ำหนัก 100% ต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ขานรับถ้อยแถลงของนายพาวเวล หลังการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาด
หุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ต่างร่วงลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนแห่เทขายหุ้นดังกล่าว หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน กล่าวว่า ไต้หวันควรจ่ายเงินให้กับสหรัฐเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปกป้องไต้หวัน
นอกจากนี้ หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี เช่น แอปเปิ้ลและเทสลา ต่างปรับตัวลงตามกัน หลังมีกระแสข่าวว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดนกำลังพิจารณาออกมาตรการที่เข้มงวดบังคับใช้ต่อบริษัทในกลุ่มดังกล่าว หากทางบริษัทยังคงอนุญาตให้บริษัทจีนเข้าถึงเทคโนโลยีของสหรัฐ
"เราไม่ได้แตกต่างอะไรจากการเป็นบริษัทประกันภัย ขณะที่ไต้หวันไม่ได้ให้อะไรแก่เราเลย และไต้หวันยังได้เอาธุรกิจชิปของเราไปทั้ง 100%" นายทรัมป์กล่าวให้สัมภาษณ์ Bloomberg Businessweek ซึ่งมีการเผยแพร่วานนี้
ถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้หลายฝ่ายเกิดความวิตกเกี่ยวกับพันธกรณีของสหรัฐในการปกป้องไต้หวัน หากถูกจีนโจมตี ในกรณีที่นายทรัมป์ชนะการเลือกตั้งในเดือนพ.ย. และกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นสมัยที่ 2
ราคาหุ้นของบริษัท ไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง โค (TSMC) ดิ่งลง 6.1% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นสหรัฐวันนี้ ขณะที่หุ้น Nvidia ร่วงลง 3.8% ส่วนหุ้นแอปเปิ้ลและเทสลารูดลง 2% และ 1% ตามลำดับ