ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงกว่า 2% ในวันนี้ (18 ก.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ทำให้มีแรงเทขายหุ้นกลุ่มส่งออก ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงตามหุ้นกลุ่มเดียวกันในตลาดหุ้นสหรัฐ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 40,126.35 จุด ลดลง 971.34 จุด หรือ -2.36%
หุ้นลบนำตลาดได้แก่ กลุ่มเครื่องมือชั่งตวงวัด, กลุ่มเครื่องจักร และกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า
ดัชนีนิกเกอิร่วงลงเกือบ 1,000 จุดเนื่องจากมีแรงเทขายหุ้นกลุ่มชิป หลังจากที่ดัชนี Nasdaq และดัชนีหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐปรับตัวลง
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเกิดความกังวลหลังจากที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้แจ้งกับชาติพันธมิตรว่า สหรัฐอาจใช้มาตรการควบคุมทางการค้าที่เข้มงวดขึ้นกับบริษัทต่าง ๆ เช่น โตเกียว อิเล็กตรอน (Tokyo Electron) ที่เปิดโอกาสให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า หากมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้จริง ก็อาจส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์
มาซาฮิโระ อิชิกาวะ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดของบริษัทซูมิโตโม มิตซุย ดีเอส แอสเซต แมเนจเมนต์ กล่าวว่า "ไบเดนมีท่าทีแข็งกร้าวต่อจีน และทรัมป์ก็น่าจะยิ่งแข็งกร้าวมากขึ้นไปอีก (หากเขาชนะการเลือกตั้ง)"
อิชิกาวะกล่าวเสริมว่า รายงานดังกล่าวยังกระตุ้นให้เกิดแรงเทขายหุ้นกลุ่มชิปในช่วงเวลาที่ราคาหุ้นกลุ่มนี้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากกระแสความนิยมของปัญญาประดิษฐ์
หุ้นโตเกียว อิเล็กตรอน ร่วงลง 8.8% ขณะที่หุ้นสกรีน โฮลดิงส์ (Screen Holdings) ร่วงลง 8.4%
ขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มผู้ส่งออกก็ถูกเทขายเช่นกัน เนื่องจากเงินเยนแข็งค่าขึ้น ซึ่งจะทำให้กำไรจากต่างประเทศลดลงเมื่อแปลงกลับมาเป็นเงินเยน