ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในวันนี้ ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ร่วงลงอย่างหนักในวันพฤหัสบดี (18 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นออกมาเป็นวงกว้าง และจากการขายทำกำไรหลังจากดัชนีทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 39,965.91 จุด ลดลง 160.44 จุด หรือ -0.40% , ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ 17,603.80 จุด ลดลง 174.61 จุด หรือ -0.98% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 2,963.51 จุด ลดลง 13.62 จุด หรือ -0.45%
ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลง 0.93% และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียร่วงลง 1.23%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุนนิวยอร์กปิดตลาดร่วงลงกว่า 500 จุดในวันพฤหัสบดี ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่สอง เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นออกมาเป็นวงกว้าง ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอนของสหรัฐ
ทิม กริสคีย์ นักกลยุทธ์ด้านพอร์ตโฟลิโอจากบริษัท Ingalls & Snyder ในรัฐนิวยอร์กกล่าวว่า ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา นักลงทุนได้ย้ายการลงทุนออกจากหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปสูงซึ่งรวมถึงหุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ไปยังหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปต่ำ แต่ล่าสุดนักลงทุนได้เทขายหุ้นออกมาเป็นวงกว้าง เพราะต้องการถือเงินสดเอาไว้ ในช่วงเวลาที่สถานการณ์การเมืองสหรัฐยังคงไม่แน่นอน
ญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อในวันนี้ โดยระบุว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย.อยู่ที่ระดับ 2.8% ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับของเดือนพ.ค. ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสด ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 2.6% ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 2.5% ในเดือนพ.ค.
อย่างไรก็ดี ดัชนี CPI พื้นฐานเดือนมิ.ย.ของญี่ปุ่นยังต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในโพลสำรวจของรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.7%