ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงเกือบ 200 จุด โดยปรับตัวลงต่อเนื่องจากที่ดิ่งลงกว่า 500 จุดวานนี้
ณ เวลา 20.46 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 40,470.19 จุด ลบ 194.83 จุด หรือ 0.48%
ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) และตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ทางตลาดไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาที่เกิดขึ้นจากบริษัท CrowdStrike แต่อย่างใด โดยทางตลาดจะยังคงมีการซื้อขายตามปกติในวันนี้
ราคาหุ้น CrowdStrike ซึ่งเป็นบริษัทดูแลความปลอดภัยด้านไซเบอร์ ดิ่งลง 13% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทวันนี้ หลังเกิดปัญหาขัดข้องในระบบจนสร้างความปั่นป่วนต่อภาคธุรกิจทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมการบิน สถาบันการเงิน และโรงพยาบาล
นายจอร์จ เคอร์ตซ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ CrowdStrike ออกแถลงการณ์ขอโทษต่อปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้
"นี่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องความปลอดภัย หรือการโจมตีทางไซเบอร์ โดยเราพบปัญหานี้ และทำการแก้ไขแล้ว" นายเคอร์ตซ์ระบุใน X
นายเคอร์ตซ์เปิดเผยว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดจากข้อบกพร่องของซอฟต์แวร์ Falcon Sensor ขณะที่ทางบริษัททำการอัพเดทระบบ Microsoft Windows ส่วนระบบ Mac และ Linux ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 30-31 ก.ค.
กฎระเบียบของเฟดได้ระบุห้ามเจ้าหน้าที่เฟดแสดงความเห็นหรือให้สัมภาษณ์ในช่วง Blackout Period เกี่ยวกับนโยบายการเงิน โดยเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่สองก่อนที่การประชุม FOMC จะเริ่มขึ้น และสิ้นสุดในวันพฤหัสบดีหลังการประชุม FOMC เพื่อป้องกันไม่ให้สาธารณชนตีความว่าเป็นการบ่งชี้การดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมนโยบายการเงินที่จะมาถึง
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ โดยจะเกิดขึ้นในเดือนก.ย., พ.ย. และธ.ค. จากเดิมที่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในเดือนก.ย.และธ.ค. หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด