ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวพลิกปิดลบในวันนี้ (26 ก.ค.) โดยร่วงลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 นับเป็นการลดลงยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2564 แม้จะมีแรงซื้อคืนหลังจากที่ดัชนีร่วงลงอย่างหนักเมื่อวานนี้ แต่แรงเทขายกลับมาอีกครั้งท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในสัปดาห์หน้า
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 37,667.41 จุด ลดลง 202.10 จุด หรือ -0.53% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.
หุ้นลบนำตลาดได้แก่ กลุ่มอุปกรณ์การขนส่ง, กลุ่มพลังงานไฟฟ้าและก๊าซ รวมถึงกลุ่มประกัน
ภาวะการซื้อขายในตลาดผันผวนตลอดทั้งวัน โดยดัชนีนิกเกอิปรับตัวขึ้นในช่วงแรกจากแรงซื้อคืนหลังจากที่ดัชนีหลักร่วงลงหนักที่สุดในรอบ 8 ปีเมื่อวานนี้
อย่างไรก็ตาม แรงเทขายกลับมาอีกครั้งในช่วงบ่าย โดยนักลงทุนกังวลว่า BOJ อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจส่งผลให้เงินเยนแข็งค่าขึ้น และลดผลกำไรในต่างประเทศของบริษัทส่งออกของญี่ปุ่น เมื่อแปลงค่ากลับเป็นเงินเยน
นักวิเคราะห์กล่าวว่า หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมถึงหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเซมิคอนดักเตอร์ ก็ถูกเทขายตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐเช่นกัน ท่ามกลางความหวังที่เริ่มจางหายไปเกี่ยวกับการเติบโตของธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในสหรัฐ หลังจากบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวัง
"ผมรู้สึกประหลาดใจกับแรงเทขายที่รุนแรงในตลาด เพราะโดยปกติแล้วการร่วงลงหนักอย่างเมื่อวานนี้น่าจะทำให้ตลาดดีดตัวขึ้นในวันนี้" คาซูโอะ คามิทานิ นักกลยุทธ์ในแผนกคอนเทนต์การลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์โนมูระกล่าว
"แนวโน้มของตลาดเปลี่ยนไปนับตั้งแต่กลางเดือนก.ค." คามิทานิกล่าว พร้อมระบุว่า นักลงทุนเริ่มกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้น