ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (26 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่ดีขึ้นของบริษัทหลายกลุ่มรวมถึงกลุ่มสินค้าหรูหรา ขณะที่ตลาดทั่วโลกยังคงมีเสถียรภาพหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อชะลอตัวลง
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 512.83 จุด เพิ่มขึ้น 4.20 จุด หรือ +0.83%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,517.68 จุด เพิ่มขึ้น 90.66 จุด หรือ +1.22%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,417.55 จุด เพิ่มขึ้น 118.83 จุด หรือ +0.65% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,285.71 จุด เพิ่มขึ้น 99.36 จุด หรือ +1.21%
ดัชนี STOXX 600 ปิดบวก หลังแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 เดือนในวันพฤหัสบดี และปรับตัวขึ้นราว 0.5% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
หุ้น EssilorLuxottica พุ่งขึ้น 7.4% หลังจากซีอีโอของบริษัทผลิตแว่นตา Ray-Ban เปิดเผยว่า Meta ได้บอกกับเขาว่า อาจเข้าถือ หุ้นในบริษัท EssilorLuxottica ขณะที่หุ้น Hermes พุ่งขึ้น 3.4% หลังจากเปิดเผยยอดขายไตรมาส 2 สูงกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย
ดัชนีหุ้นบริษัทสินค้าหรูหรา 10 แห่งของยุโรป พุ่งขึ้น 2.9% ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นวันเดียวมากที่สุดในรอบ 6 เดือน
หุ้นกลุ่มก่อสร้างและวัสดุปรับตัวขึ้น 1.7% หลังหุ้น Vinci ซึ่งเป็นผู้ประกอบการทางหลวงของฝรั่งเศสพุ่งขึ้น 3.5% หลังเปิดเผยรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก
ในขณะเดียวกัน ตลาดโลกทั่วโลกยังคงมีแนวโน้มสดใส หลังจากการเปิดเผยข้อมูลแสดงให้เห็นว่าเงินเฟ้อของสหรัฐเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนมิ.ย. ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นกลุ่มรถยนต์ปรับตัวย่ำแย่ที่สุด ขณะที่กลุ่มเฮลท์แคร์ปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดราว 2.2%